Not known Factual Statements About free bet prediction today

หลายๆคนที่ตั้งเป้าสำหรับเพื่อการลดน้ำหนัก มักอดไม่ได้ที่จะชั่งน้ำหนักอยู่ตลอด

เพื่อประมวลผลลัพธ์ของตนว่า ลดหุ่นได้ถึงจุดมุ่งหมายหรือยัง

บ่อย ที่เมื่อก้าวเท้าขึ้นไปยืนบนเครื่องชั่ง ด้วยความจริงใจระทึก

ตัวเลขที่ปรากฎ กลับไม่เป็นอย่างความคาดหวังเอาซะเลย

จนถึงบางคราวพวกเราเผลอ “ยึดติด” ว่าครั้งใดก็ตามชั่งน้ำหนัก อย่างน้อยๆลดน้อยลงสักขีพยานดนึงก็ยังดี

ว่าแต่ว่ามันจะดีจริงๆหรอ?

ความเป็นจริงแล้วเรามุ่งหวังอะไรจากการลดน้ำหนัก?

น้ำหนักบนคันชั่งที่น้อยลง หรือ รูปร่างที่เฟิร์ม ฟิตขึ้น

ลุงมั่นใจว่าคนไหนกันแน่ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ว่าจะลดหุ่น เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มกล้าม

ล้วนอยากได้ผลลัพธ์เป็น มีรูปร่างที่ดียิ่งขึ้น

ซึ่งน้ำหนักที่ลดน้อยลง อาจมิได้พิสูจน์ว่าพวกเรามีรูปร่างดียิ่งขึ้นเสมอ

คนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้วดียิ่งขึ้นก็มี ยกตัวอย่างเช่น คนที่บริหารร่างกายแล้วกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น น้ำหนักเลยเพิ่มขึ้น

ส่วนผู้ที่อ้วนขึ้น น้ำหนักก็ลดลงได้น่าฟังไม่บริหารร่างกายแล้วกล้ามสลายไป น้ำหนักก็เลยหายไปด้วย

ซึ่งอันที่จริงกล้ามเนื้อหนักกว่าไขมันมากมาย ตอนที่พวกเรามีกล้ามเพิ่มมาน้อยดูจากภายนอกเสมือนรูปร่างไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากแค่ไหน แต่น้ำหนักจะมากขึ้น

ในทางกลับกันหากน้ำหนักที่มากขึ้นนี้มาจากไขมัน แสดงว่าพวกเรามีไขมันจำนวนมาก กระทั่งมองอ้วนขึ้นได้เลย

วิธีการลดน้ำหนัก (ไขมัน) แบบ Intermittent Fasting (IF)

เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมานานกว่า 10 ปี โดยจะมีการรับประทานแบบจำกัดช่วงหมายถึงช่วงรับประทาน (feeding) และช่วงอด (fasting) การลดหุ่นด้วยวิธีนี้จะช่วยเรื่องระบบการเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย ส่งผลให้การสะสมของไขมันในส่วนต่างๆลดลงเมื่อเราอยู่ในช่วงไม่กินอาหารระดับอินซูลินจะน้อยลง ส่วนระดับ Growth Hormone หรือฮอร์โมนที่ช่วยสำหรับการเจริญเติบโตจะสูงขึ้น และไม่นำมาซึ่งการทำให้มวลกล้ามน้อยลงเสมือนการละอาหารเพื่อลดหุ่นวิธีอื่นๆอีกด้วย

โดยขั้นตอนการลดความอ้วน (ไขมัน) แบบ Intermittent Fasting นั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่าง สามารถแบ่งได้ 6 แบบอย่าง ดังต่อไปนี้

แบบ Lean gains เป็นต้นแบบยอดนิยม ด้วยเหตุว่าทำง่าย โดยจะกินอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วง 16 ชั่วโมง หรือที่เรียกว่า “สูตร 8:16”

แบบ Fast 5 แนวทางลักษณะนี้จะคล้ายกับวิธีการทำแบบ Lean gains แต่จะลดช่วงของการกินอาหารเหลือแค่ 5 ชั่วโมง แล้วก็ไม่กินอาหารอย่างต่อเนื่อง 19 ชั่วโมง

แบบ Eat Stop Eat วิธีไม่กินอาหารลักษณะนี้จะมีวันที่จำเป็นต้องไม่กินอาหารตลอดทั้งวันประมาณ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ โดย 5 วันที่เหลือจะสามารถกินอาหารได้ตามปกติ

แบบ 5:2 วิธีแบบนี้จะคล้ายกับวิธี Eat Stop Eat คือจะมีตอนที่สามารถรับประทานอาหารได้ตามธรรมดา และก็ต้องมีขณะที่ไม่กินอาหาร 24 ชั่วโมงจำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ในช่วงที่อดอาหารนั้นยังสามารถรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำได้เพียงเล็กน้อย โดยสามารถกินได้ 500-600 Kcal หรือประมาณ 1/4 ของ Kcal ต่อวัน

แบบ The Warrior Diet ในรูปแบบนี้มีนิยามที่เรียกกันว่า “Fast during the day, eat a huge meal at night” แปลว่า การงดเว้นของกินในตอนกลางวัน สามารถดื่มได้เพียงน้ำกิน แล้วก็กินข้าวเย็นเพียงมื้อเดียวเท่านั้น

แบบ ADF (Alternate Day Fasting) เป็นการอดอาหารแบบวันเว้นวัน แม้กระนั้นในระหว่างที่อดอาหารสามารถกินอาหารแคลอรี่ต่ำได้ เพียงแค่จำเป็นต้องกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้

แม้การลดน้ำหนัก (ไขมัน) ด้วยแนวทางนี้จะมีขณะที่เราสามารถกินอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องแคลอรี่ แต่ว่าอาหารที่เรากินในขณะที่จำกัดต้องเป็นของกินที่ให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ อย่างเช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ แล้วก็แร่จากผักหรือผลไม้ เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดสารอาหารนั่นเอง

ลดความอ้วน (ไขมัน) แบบยุคหิน Paleo Diet

เป็นกรรมวิธีการทานอาหารที่จำต้องย้อนยุคไปถึง 10,000 ปีก่อน โดยจะยึดตามแบบฉบับของผู้คนยุคหินที่ส่วนมากจะเป็นการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ รวมทั้งอาหารที่มีโปรตีนสูง อย่างเช่น ปลา รวมทั้งการรับประทานผัก ผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น ถั่ว และก็เมล็ดพืชต่างๆ

การลดความอ้วน (ไขมัน) ด้วยแนวทางนี้จะเป็นการย้ำรับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี และไม่ใช่อาหารสำเร็จรูปที่ผลิตมาจากโรงงาน เพราะเหตุว่ามีความเห็นว่าของกินที่เรากินกันเวลานี้บางทีอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อเรื่องสุขภาพต่างๆดังเช่นว่า โรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ

ข้อดีของการทานอาหารแบบ Paleo Diet ยังช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด แล้วก็ช่วยลดความอยากอาหารได้ด้วย


ย้ำไขมันกับการกินแบบคีโตเจนิค ไดเอท (Ketogenic Diet)

การลดหุ่น (ไขมัน) แบบคีโตเจนิค ไดเอท (Ketogenic Diet) หรือคีโต ไดเอท (Keto Diet) เป็นการกินอาหารที่ย้ำแต่ว่าไขมัน แล้วก็โปรตีน โดยจะลดอาหารที่เป็นพวกคาร์โบไฮเดรตให้เหลือต่ำที่สุด การลดน้ำหนัก(ไขมัน)ด้วยวิธีแบบนี้จะใช้หลักเกณฑ์การเผาที่เรียกว่า คีโตสิส (Ketosis) กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดสาร คีโตน (Ketone) ในตับ เพราะเหตุว่าปกติแล้วร่างกายจะนำกลูโคสที่ได้จากการทานอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงาน เมื่อพวกเรากินอาหารที่ย้ำแต่ไขมัน แล้วก็โปรตีน ร่างกายก็เลยต้องหาแหล่งพลังงานอื่นมาตอบแทน จึงเกิดการเผาผลาญไขมันที่พวกเรากินเข้าไปแทนการเผาไหม้คาร์โบไฮเดรตนั่นเอง

กรรมวิธีการลดความอ้วน (ไขมัน) อย่างนี้จะเหมาะกับผู้ที่ชอบพอการทานอาหารชนิดเนื้อมากยิ่งกว่าการกินประเภทผัก เป็นต้นว่า สเต็ก หมูทอด ไก่ทอด เป็นต้น แม้กระนั้นแนวทางนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคตับ ไตเสื่อม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเผาไขมัน เพราะว่าเป็นสูตรลดน้ำหนักที่จำต้องใช้ตับ รวมทั้งไตทำงานมากอาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อโรคที่เป็นอยู่ได้

เว้นแต่แนวทางการลดน้ำหนัก (ไขมัน) ด้วยการควบคุมอาหาร หรือปรับเปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติการกินอาหารแล้ว เราควรใส่ใจในประเด็นอื่นๆด้วย อาทิเช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการลดหุ่นให้ได้สมรรถนะนั่นเอง|ลดหุ่นสำหรับคนอ้วน สำหรับคนที่อยู่ระหว่างการลดความอ้วน หรือ เคยผ่านขณะที่ลดน้ำหนักมาแล้วนั้น น่าเชื่อเลยว่าหลายท่านจำต้องเคยเจอปัญหาต่างๆในระหว่างที่กำลังลดน้ำหนัก ผงโกโก้ กินแล้วอ้วนไหม เป็นต้นว่า เพราะเหตุใดน้ำหนักถึงลดไม่ลงสักครั้ง เพราะเหตุไรน้ำหนักถึงลงช้า ทำไมบริหารร่างกายมากแล้วยังไม่ผอมเสียเชิง หรือจะเป็นปริศนาอีกมามายที่เกิดความสงสัยขึ้น สำหรับคนใดที่กำลังประสบปัญหา เกี่ยวกับการลดน้ำหนักหรือกำลังประสบปัญหาอยู่ ลองมาดูกันว่าปัญหาที่เกิดกับตัวของคุณหรือไม่ ที่จะชี้แจงดังนี้หรือไม่
เพราะเหตุใดหญิงชายลดหุ่นได้ไม่เท่ากัน?
ลดน้ำหนักอย่างไรให้สำเร็จ เป็นปัญหาที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ทั้งๆที่ควบคุมการรับประทานอาหารก็มากยิ่งกว่า หรือออกกำลังกายก็หนักกว่า แล้วเพราะอะไรถึงลดหุ่นได้น้อยกว่าในเพศชายที่บริหารร่างกายรวมทั้งควบคุมด้านการกินอาหารน้อยกว่าประเด็นนี้ทำให้ผู้หญิงส่วน ใหญ่คิดว่าตัวเองล้มเหลวเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายและมักยอมแพ้เลิกออกกำลังกายสุดท้าย ซึ่งคำถามข้อนี้สามารถชี้แจงเหตุผลได้ดังต่อไปนี้

1. การรบแคลอรีระหว่างเพศ

เหตุผลที่จะอธิบายข้อแรกเป็น โดยปกติแล้วในผู้ชายมักมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าเพศหญิง ร่วมถึงมีปริมาณของกล้ามภายในร่างกายมากมายกล่าวถึงซึ่งเซลล์กล้ามเนื้อจะเผาผลาญพลังงานได้ดีมากยิ่งกว่าเนื้อเยื่อไขมัน จึงทำให้การใช้พลังงานในชีวิตประจำวันธรรมดาของผู้ชายจะสามารถเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าในเพศหญิงเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าหญิงหรือเพศชายจะมีรูปร่างเท่าๆกัน แต่ผู้ชายจะสามารถกินได้มากกว่าเพศหญิงโดยที่น้ำหนักไม่ขึ้น รวมทั้งสามารถลดความอ้วนได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเพียงแต่ลดจำนวนของกินให้ลดน้อยลงแค่นั้น

2. อายุ

โดยธรรมดามนุษย์เราเมื่อมีอายุมากเพิ่มขึ้น มวลกล้ามในร่างกายต่างๆก็จะลดน้อยลงทำให้ปริมาณแคลอรีที่ปรารถนาในทุกวันก็ลดน้อยลงตามไปด้วยซึ่งเพศชายสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าสตรีแม้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุเยอะแค่ไหนก็ตาม เนื่องด้วยสตรีเมื่อถึงวัยที่หมดระดูนั้น จะทำให้มีการเปลี่ยนของฮอร์โมนภายในร่างกาย ทำให้กล้ามลดลงเร็วกว่าธรรมดา จึงควบคุมน้ำหนักได้ยาก แม้ว่าจะทานอาหารแคลอรีต่ำในปริมาณน้อยรวมทั้งตามแต่ดังนี้อย่าอุตสาหะลดหุ่นด้วยการลดแคลอรีมากๆด้วยเหตุว่าจะไปทำให้เกิดการเร่งให้สูญเสียกล้ามเนื้อเร็วขึ้นซึ่งส่งผลให้ระบบเผาผลาญต่ำลง ควรจัดการกับปัญหาโดยการบริหารร่างกายโครงสร้างกล้ามจะเยี่ยมที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงแนวทางลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ช่วยรักษาระบบเผาผลาญในร่างกายให้ยังดำเนินการได้ในระดับปกติ

3. บริหารร่างกายแต่ว่าอย่าให้หนักเหลือเกิน

ธรรมชาติของร่างกายของผู้ชาย ถ้าหากกระทำการบริหารร่างกายที่เหมาะสมก็สามารถช่วยทำให้ลดความอ้วนลงได้ โดยที่ไม่ต้องควบคุมหรือลดระดับอาหารที่ทานเข้าไปในทุกๆวัน และก็แม้มีการเพิ่มการออกกำลังกายให้มากยิ่งขึ้น ก็จะมีผลให้น้ำหนักตัวต่ำลงเร็วขึ้นไปอีก ซึ่งแตกต่างจากในสตรี แม้หญิงกระทำออกกำลังกายมากขึ้นแบบหนักมากมาย ก็บางครั้งอาจจะไม่ได้เรื่องเสมือนในผู้ชาย ซึ่งมีเหตุมีผลจากการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยเป็น ในผู้หญิงเมื่อยิ่งออกกำลังกายหนักขึ้นร่างกายจะส่งสัญญาณให้ “ อยากรับประทาน ” เพื่อทดแทนพลังงานที่ได้สูญเสียออกไป เพราะว่าร่างกายผู้หญิงทำงานในลักษณะรอเก็บไขมัน ซึ่งเป็นระบบคุ้มครองป้องกันร่างกายของสตรีในวัยเจริญพันธุ์ เมื่อบริหารร่างกายหนักจึงทำให้มีการเกิดอาการหิว อยากกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในเพศชายจะไม่เจอหรือเป็นแบบนี้ราวกับในหญิงโดยเหตุนั้นการออกกำลังกายในระดับที่พอดี จะสามารถช่วยทำให้สตรีสามารถลดความอ้วนรวมทั้งไขมันส่วนเกินได้ดีกว่า การบริหารร่างกายแบบหนักและหักโหม หรือควรขยับเขยื้อนให้มากยิ่งขึ้นตลอดทั้งวัน ไม่ใช่เพียงการออกกำลังกายแบบหนักในช่วงเวลาเพียงแต่วันละ 30 นาทีเพียงแค่นั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *